Birdy Gen 3




รถจักรยาน Birdy Gen 3 ของผมคันนี้ ผมซื้อมาได้ 1 ปี พอดิบพอดี ก็เพิ่งจะมีโอกาสมาทำรีวิวสั้นๆ สาเหตุที่ไม่ทำรีวิวในทันทีก็เพราะผมยังไม่รู้จักรถคันนี้ดีพอ แต่พอขี่ได้ 1 ปี ก็พอจะรู้นิสัยของมัน ก็ไม่ผิดหวังกับราคา 47,500บ. สำกหรับจักรยานดีๆ หนึ่งคัน ที่ได้ไปซื้อมาแบบงงๆ  จักรยานคันนี้ผมซื้อมาจากร้าน Interbike ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายจักรยานคันนี้ ทีแรกผมก็ตั้งใจจะไปดูสินค้าเล่นๆ เท่านั้นแหละ ไม่คิดว่าจะต้องซื้ออะไร เพราะอยากเห็นตัวจริงของรถคันนี้เพราะดูดีไซน์มันแปลกๆ ดี แต่พอไปถึงที่ร้านแล้ว เขาบริการได้ดีเกินคาดครับ เพราะมีที่สำหรับให้ทดลองขี่ด้วย ซึ่งไม่เหมือนกับร้านขายจักรยานหลายๆ ที่ ที่ไม่มีทั้งรถ และ สถานที่ให้ลองขี่ หลังจากที่ได้ลองขี่ก็รู้สึกว่าอืมม์ ชอบนะ เพราะน้ำหนักที่เบา ฝีมือการประกอบรถที่เรียบร้อย สะอาดตา และแลดูมีราคา


ลักษณะของรถ

รถคันนี้จะมีลักษณะของเฟรมที่เป้นอลูมิเนียมขึ้นรูป มาอย่างดี สวยงาม มาพร้อมกับล้อขนาด 18 นิ้วของ Alex Rim  พร้อมทั้งเกียร์ 9 สปีด ซึ่งเป็นของ Shimano Sora ระบบห้าล้อแบบ Disc Brake ทั้งหน้าและหลัง มีโช๊คอัพรับแรงกระแทกหน้า-หลัง รถคันนี้เมื่อพับแล้วก็ไม่เล็กเท่าไร แต่มีน้ำหนักเบาแค่ประมาณ 10 Kg กว่าๆ

สำหรับสเป็คอย่างละเอียดของรถคันนี้ ผมได้เขียนเอาใว้แล้ว ซึ่งสามารถอ่านได้จากบทความเรื่อง "มาทำความรู้จัก Birdy Gen 3 จาก Spec กัน"


Shifter Shimano Sora 9 สปีด ทำงานได้แม่นยำดี แต่ก็ไม่ค่อยลื่น และแลดูจะช้าไปหน่อยเมื่อเทียบกับ Shimano Tiagra


ส่วนล้อด้านหน้าขนาด 18 นิ้ว พร้อมทั้งโช๊คอัพ ซึ่งก็ให้ความนุ่มนวลดี ซับแรงกระแทกกระเทือนจากพื้นถนนที่ไม่เรียบได้ดีมาก ล้อเป็นของ AlexRim ซึ่งรองรับการ upgrade เฟืองหลังได้ถึง 11 สปีด


ส่วนคอพับที่ ใหญ่ และดูแข็งแรงแน่นหนาดี


บันไดถีบที่ได้ติดมากับรถ เป็นบันไดแบบถูกๆ
ของ Wellgrowไม่ค่อยจะลื่นเท่าไรนัก


ส่วนโช๊คอับหลังเป้นเพียงแค่ก้อนพลาสติกโพลี่ยูรรีเทนเท่านั้น
ไม่รู้ว่าเมื่อใช้ไปนานๆ แล้วจะเป็นอย่างไร


ตีนผี Shimano Sora ขนาด 9 สปีด


แฮนด์ที่รับกับอุ้งมือได้ดีขี่สบาย


ความรู้สึกของการขับขี่

  1. เนื่องจากเป็นรถพับในลักษณะของการตวัดหาง ซึ่งจะแตกต่างจากรถยอดนิยมอย่าง Dahon ซึ่งเป็นแบบพับกลาง รถแบบตวัดหางจะมีข้อได้เปรียบกว่าในเรื่องความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่ายิ่งเมื่อขี่ไปนานๆ แล้วไม่ค่อยรู้สึกว่าเฟรมมันโยกคลอนจากากรที่บานพับมันคลายยตัว 
  2. รถเบา ขี่ได้พุ่ง และ อัตราแเร่งดีกว่า เฟรมโครโมลี่ทั่วไป 
  3. เนื่องจากมีโช๊คอัพซับแรงกระแทก ทำให้เกิดความรู้สึกที่นุ่มนวลในการขับขี่ ไม่ปวดข้อมือ แต่ไม่ได้หมายความว่าหากลงหลุมใหญ่ๆ แล้วจะรอดนะ
สิ่งที่ไม่ชอบ
  1.  สิ่งที่ผมไม่ชอบก็คือล้อเล็ก ทำให้ต้องเติมบ่อยๆ ไม่ค่อยไหลเหมือน Dahon Boardwalk
  2. เบาะนั่งไม่ค่อยจะสบายเท่าไร
  3. บันไดถีบไม่ค่อยจะสมกับราคา
  4. รถราคา 47,500บ. แต่ไม่มีขาตั้งมาให้
  5. อุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ มีราคาแพง ถึงแพงมาก และหาของเล่นยาก หากใครคิดจะนำคันนี้ไปทำเป็น touring bike คิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ จุดยึด rack หน้าหลัง ต่างจากรถตลาดมาก ทำให้หาอุปกรณืยากมา และอุปกรณ์ทีทำมาเฉพาะก็มีราคาสูงมาก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมื่อ Dahon Boardwalk D7 เปลี่ยนชุดขับ เป็น Dahon Boardwalk D20

ไมล์วัดความเร็ว INBIKE 321

Cannello Mini Velo - รถราคาถูกๆ นอกสายตา