ของเล่นใหม่ - Dahon Boardwalk D7
หลังจากที่ขี่จักรยานมาพักใหญ่ สิ่งที่เตะตาผมก็คือรถจักรยานพับเพราะมันดูแปลกดาดี ยิ่งดูนานๆ เข้า เออ..มันก็สวยดีนะ ทำให้เกิดความอยากได้เพราะตอนเด็กๆ ผมฝันอยากได้จักรยาน BMX มากครับแต่ก็ไม่มีเงินซื้อ เพราะพ่อแม่เองก็ยังลำบาก ดังนั้นในสมัยเรียนก็ได้แต่ยืมเพื่อนขี่
ผมอยู่ใน กทม. ผมเห็นมีคคนใช้จักรยานพับเยอะมาก แต่พอมาที่เชียงรายแล้วกลับไม่ค่อยจะเห็นจะมีก็แต่เสือภูเขา และ เสือหมอบ อาจจะเป็นเพราะจักรยานพับเหมาะกับสังคมเมือง ที่เน้นให้ความคล่องตัวสูง เพราะต้องใช้การขนส่งหลาย mode เช่นขึ้นรถไฟฟ้า แล้วนำจักรยานขึ้นไปด้วย แต่ในความเป็นจริง ผมก็ไม่ค่อยจะเห็นใครหิ้วขึ้นรถไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วนนะ เข้าใจว่าคนขี่จักรยานส่วนมากจะออกก่อนคนอื่นๆ เสมอ
เอาละ รถที่ต้องตาต้องใจผมมากตั้งแต่แรกเห็นก็คือ Dahon Boardwalk D7 ครับเพราะหุ่นมันเป็นท่อกลมเล็กเรียวเพรียวลมดี ดูเหมือนจักรยานรุ่นเก่าๆ พอไปเห็นตัวจริงเข้ายิ่งหลงรักเพราะงานออกมาดูสวยเรียบร้อย และวัสดุอะไรต่างๆ ก็ดูดีมาก เฟรมรถรุ่นนี้เป็นโครโมลี่ (ท่อเหล็กน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นสูง) ผมเคยไปดูจักรยานพับมาหลายยี่ห้อส่วนใหญ่ก็เป็นระดับกลางๆ ไปล่างๆ ดูแล้วมันก๊องแก๊งมาก สีก็ฉูดฉาดบาดตามากเกินไป
เบาะและ แฮนด์ของผมมาเป็นสีน้ำตาลตอกด้วยหมุดสีทองเหลืองสวยงามดูดีมีราคาครับ เบาะก็นั่งสบายไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินเปลี่ยนครับ ส่วนปลอกแฮนด์ก็จับได้ถนัดมือดีมีกันลื่นด้วย
รถรุ่นนี้มี 7 สปีด สำหรับเกียร์ที่ให้มาก็เป็น Shimano Tourney 7 Speed ส่วนเฟืองหลังก็เป็น 12-28 ขับด้วยจานหน้า 52 ฟัน โดยรวมแล้วก็เหมาะสำหรับการขี่ในเมืองที่ไม่ได้ใช้ความเร็วอะไรกันมากมายนัก หากแค่ปั่นออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ซีเรียสอะไร
ส่วน Shifter ก็เป็นของไมโครชิฟซึ่งใช้งานง่ายดีไม่มีปัญหาอะไร มีกระดิ่งติดรถมาให้ด้วยนะ สำหรับเบรคก็เป็น V-Brake ธรรมดาทั่วๆไป ที่สั่งการได้ดั่งใจ ไม่มีปัญหาอะไร
จุดที่ขัดใจก็จะมีแต่ดุมล้อที่ไม่ได้ให้แกนแบบปลดเร็วมา แต่ให้มาเป็นแบบขันน๊อตเหมือนรถตลาดล่างไปหน่อย ผมเลยเปลี่ยนเป็แกนปลดเร็วทั้งหน้าและหลังเล
ส่วนแผ่นแม่เหล็กกลมๆ นี่ก็ติดมากับตัวรถเลยไม่ต้องดิ้นรนหาซื้อมาติดกันภายหลังเหมือนรถบางยี่ห้อ
การขับขี่
สำหรับผมเคยขี่เสือภูเขามาก่อน เมื่อมาเจอล้อเล็กๆ แบบนี้ใหม่ๆ ก็อึดอัดพอสมควรครับ เพราะมันกระแทกกระทั้นมาก ต้องใช้เวลาปรับตัวกันระยะหนึ่ง การตอบสนองต่อบันไดถีบ (ผมเปรียบเทียบกับรถ mini เสือหมอบ ล้อ 451 ของลูกชายผม) ผมว่ารถคันนี้กินแรงกว่า ไม่ค่อยจะพุ่งลื่นใหลเท่าได แต่เท่าที่ได้คุยกับหลายๆ คนเขาบอกว่ายาง Kenda 20x1.5 ที่ติดมากับตัวรถน่าจะกินแรง และหน่วงขาพอสมควร สำหรับการขับขี่โดยรวมผมว่าเป็นรถที่ปั่นสนุกและคล่องตัวในเมืองครับ แต่เมื่อไรที่ต้องขึ้นเขาผมบอกได้เลยว่าต้องจูงกันหลายรอบแน่นอน เพราะผมเองก็จูงมาแล้ว เนื่องจากดูเหมือนเกียร์ 7 สปีดนั้นไม่เพียงพอต่อการขึ้นเขา
จุดที่ไม่พอใจ
สรุป
กับเงิน 14,600 บาทเพื่อแลกสิ่งที่ได้มาอาจจะแพงสักหน่อยสำหรับยี่ห้อนี้ แต่หากมองที่ดีไซน์ คุณภาพวัสดุ และ การใช้งานทั่วๆ ไป ผมก็ถือว่ารุ่นนี้ก็สมเหตุสมผลกับเงินที่ซื้อมา แต่หากต้องการความคุ้มค่าเงินโดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องของการออกแบบ รูปร่างหน้าตา ผมบอกได้เลยว่ามีรถหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่ให้ความคุ้มค่าเงินมากกว่า Dahon Boardwalk เพราะอุปกรณ์ที่ให้มาอาจจะมากกว่า และไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนในการอัพเกรดในอนาคต ทั้งนี้หลายๆ คนที่เล่นรถรุ่นนี้ส่วนใหญ่ผมเชื่อว่าซื้อเพราะรูปร่างหน้าตาที่ดูสวยเรียวเพรียวบางมมากว่า
ผมอยู่ใน กทม. ผมเห็นมีคคนใช้จักรยานพับเยอะมาก แต่พอมาที่เชียงรายแล้วกลับไม่ค่อยจะเห็นจะมีก็แต่เสือภูเขา และ เสือหมอบ อาจจะเป็นเพราะจักรยานพับเหมาะกับสังคมเมือง ที่เน้นให้ความคล่องตัวสูง เพราะต้องใช้การขนส่งหลาย mode เช่นขึ้นรถไฟฟ้า แล้วนำจักรยานขึ้นไปด้วย แต่ในความเป็นจริง ผมก็ไม่ค่อยจะเห็นใครหิ้วขึ้นรถไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วนนะ เข้าใจว่าคนขี่จักรยานส่วนมากจะออกก่อนคนอื่นๆ เสมอ
เอาละ รถที่ต้องตาต้องใจผมมากตั้งแต่แรกเห็นก็คือ Dahon Boardwalk D7 ครับเพราะหุ่นมันเป็นท่อกลมเล็กเรียวเพรียวลมดี ดูเหมือนจักรยานรุ่นเก่าๆ พอไปเห็นตัวจริงเข้ายิ่งหลงรักเพราะงานออกมาดูสวยเรียบร้อย และวัสดุอะไรต่างๆ ก็ดูดีมาก เฟรมรถรุ่นนี้เป็นโครโมลี่ (ท่อเหล็กน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นสูง) ผมเคยไปดูจักรยานพับมาหลายยี่ห้อส่วนใหญ่ก็เป็นระดับกลางๆ ไปล่างๆ ดูแล้วมันก๊องแก๊งมาก สีก็ฉูดฉาดบาดตามากเกินไป
 |
| Dahon Boardwalk D7 สีฟ้า ของผมเองครับ ตัดกับสีเงินของจริงสวยงามมากครับ |
เบาะและ แฮนด์ของผมมาเป็นสีน้ำตาลตอกด้วยหมุดสีทองเหลืองสวยงามดูดีมีราคาครับ เบาะก็นั่งสบายไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินเปลี่ยนครับ ส่วนปลอกแฮนด์ก็จับได้ถนัดมือดีมีกันลื่นด้วย
รถรุ่นนี้มี 7 สปีด สำหรับเกียร์ที่ให้มาก็เป็น Shimano Tourney 7 Speed ส่วนเฟืองหลังก็เป็น 12-28 ขับด้วยจานหน้า 52 ฟัน โดยรวมแล้วก็เหมาะสำหรับการขี่ในเมืองที่ไม่ได้ใช้ความเร็วอะไรกันมากมายนัก หากแค่ปั่นออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ซีเรียสอะไร
ส่วน Shifter ก็เป็นของไมโครชิฟซึ่งใช้งานง่ายดีไม่มีปัญหาอะไร มีกระดิ่งติดรถมาให้ด้วยนะ สำหรับเบรคก็เป็น V-Brake ธรรมดาทั่วๆไป ที่สั่งการได้ดั่งใจ ไม่มีปัญหาอะไร
จุดที่ขัดใจก็จะมีแต่ดุมล้อที่ไม่ได้ให้แกนแบบปลดเร็วมา แต่ให้มาเป็นแบบขันน๊อตเหมือนรถตลาดล่างไปหน่อย ผมเลยเปลี่ยนเป็แกนปลดเร็วทั้งหน้าและหลังเล
ส่วนแผ่นแม่เหล็กกลมๆ นี่ก็ติดมากับตัวรถเลยไม่ต้องดิ้นรนหาซื้อมาติดกันภายหลังเหมือนรถบางยี่ห้อ
การขับขี่
สำหรับผมเคยขี่เสือภูเขามาก่อน เมื่อมาเจอล้อเล็กๆ แบบนี้ใหม่ๆ ก็อึดอัดพอสมควรครับ เพราะมันกระแทกกระทั้นมาก ต้องใช้เวลาปรับตัวกันระยะหนึ่ง การตอบสนองต่อบันไดถีบ (ผมเปรียบเทียบกับรถ mini เสือหมอบ ล้อ 451 ของลูกชายผม) ผมว่ารถคันนี้กินแรงกว่า ไม่ค่อยจะพุ่งลื่นใหลเท่าได แต่เท่าที่ได้คุยกับหลายๆ คนเขาบอกว่ายาง Kenda 20x1.5 ที่ติดมากับตัวรถน่าจะกินแรง และหน่วงขาพอสมควร สำหรับการขับขี่โดยรวมผมว่าเป็นรถที่ปั่นสนุกและคล่องตัวในเมืองครับ แต่เมื่อไรที่ต้องขึ้นเขาผมบอกได้เลยว่าต้องจูงกันหลายรอบแน่นอน เพราะผมเองก็จูงมาแล้ว เนื่องจากดูเหมือนเกียร์ 7 สปีดนั้นไม่เพียงพอต่อการขึ้นเขา
จุดที่ไม่พอใจ
- เฟืองท้ายรุ่นนี้เป็นแบบเฟืองเกลียว แม้จะเป็นรถรุ่นใหม่ในปี 2017 ก็ตาม ทำให้ไม่สามารถอัพเกรดเฟืองท้ายให้มีจำนวนสปีดมากกว่านี้ได้
- แกนดุมล้อที่ให้มาเป็นน๊อตขัน ต้องนำมาเปลี่ยนเป็นแบบปลดเร็วเอาเองก็เสียเงินอีกประมาณ 700 บาททั้งหน้า-หลัง
สรุป
กับเงิน 14,600 บาทเพื่อแลกสิ่งที่ได้มาอาจจะแพงสักหน่อยสำหรับยี่ห้อนี้ แต่หากมองที่ดีไซน์ คุณภาพวัสดุ และ การใช้งานทั่วๆ ไป ผมก็ถือว่ารุ่นนี้ก็สมเหตุสมผลกับเงินที่ซื้อมา แต่หากต้องการความคุ้มค่าเงินโดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องของการออกแบบ รูปร่างหน้าตา ผมบอกได้เลยว่ามีรถหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่ให้ความคุ้มค่าเงินมากกว่า Dahon Boardwalk เพราะอุปกรณ์ที่ให้มาอาจจะมากกว่า และไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนในการอัพเกรดในอนาคต ทั้งนี้หลายๆ คนที่เล่นรถรุ่นนี้ส่วนใหญ่ผมเชื่อว่าซื้อเพราะรูปร่างหน้าตาที่ดูสวยเรียวเพรียวบางมมากว่า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น