Suzuki Van Van RV125 - ไปไต่ยอดฟ้าที่พงสาลี - 5
จากตอนที่แล้ว เมื่อคืนนี้ได้นอนในห้องที่สะอาด และเหนื่อยมาทั้งวัน ทำให้ผมหลับได้สนิทมาก และเช้านั้ผมตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นกว่าทุกวัน เพราะวันนี้เป็นวันที่ 5 (22 November 2015) ของการเดินทาง ซึ่งวันนี้ผมต้องกลับบ้านแล้วครับ และเหมือนเช่นทุกวันคือ เช้าวันนี้ผมต้องมาเดินเที่ยวในตัวเมืองและ ชมตลาดปากแบงก่อนที่จะกลับ ผมมาเดินตลาดตั้งแต่ หกโมงเช้า เพื่อให้แน่ใจว่าตลาดจะไม่วายก่อน ก็เฉกเช่นเดียวกับตลาดใน สปป.ลาวทั่วไป สินค้าก็มีเหมือนๆ กัน แต่ตลาดที่นี่แลดูพิเศษกว่าที่อื่นๆหน่อยคือ ตัวตลาดจะอยู่ติดภูเขา ซึ่งมองดูแล้วก็สวยสบายตาดีครับ
ผมไม่รู้ว่าที่นี่เป็นหมู่บ้าน หรือ อำเภอปากแบง แต่ที่รู้ก็คือที่นี่อยู่ในออ้มกอดของขุนเขา และสายหมอก |
วิถีชีวิตของชาวบ้านก่อนย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ที่สบายๆ ไม่รีบร้อน |
ร้านรวงต่างก ก็เริ่มเปิดดำเนินธุรกิจดังที่เป็นอยู่ในทุกๆ วัน |
ตลาดที่ในอ้อมกอดของขุนเขาและ สายหมอก |
สินค้าพื้นเมืองต่างๆ แต่ก็เห็นมีหลายๆ อย่างมาจากเมืองไทยเช่นกัน |
ด้านหน้าตลาดปากแบง ที่ผู้คนเริ่มเข้ามาจับจ่าย |
สินค้าก็มาจากตลาดเมืองไทยทั้งนั้น เพราะที่อยู่ไม่ไกลจากชายแดนของไทยเท่าไรนัก |
ขนมปังหน้าหมู ไม่ได้กินมานานมาก |
ผมรู้สึกสงสารนกแก้วแสนสวยตัวนี้จริงๆ ที่ต้องกลายมาเป็นอาหารของคน |
ระหว่างที่รับประทานอาหารเช้านั้น มีชายหนุ่มชาวจีนคนหนึ่งเป็น Backpacker มาขอนั่งร่วมโต๊ะกับผม ก็เลยได้มีโอกาสนั่งคุยกัน ได้ความว่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรมขนาดเล็กที่ ต้าลี่ มาที่นี่เพื่อดูเรื่องของการท่องเที่ยว เขาบอกผมมาว่าเขาชอบเมืองไทยนะ และ ยังได้ชวนให้ผมไปพักที่โรงแรของเขาเลย
บาเก็ต ขนมปังฝรั่งเศษ หรือ ที่คนลาววเรียกว่า ข้าวจี่ ส่วนตัวผมเองชอบนะ ง่าย อละ อร่อยดี |
เพื่อนใหม่ชาวจีน พอเสร็จเวลาอาหาร ก็ได้เวลาร่ำลา |
สสภาพเมืองปากแบงในตอนเช้าๆ |
ร้านรวงต่างๆ ในเมืองปากแบง |
ปากแบง > เมืองเงิน > ห้วยโก๋น > อ.เชียงกลาง > อ.สองแคว > อ.เชียงคำ > จ.เชียงราย
ผมมาถึงท่าเรือ และโชคดีของผมคือไม่ต้องรอนานแพก็เต็ม ผมได้ข้ามฝากในราวๆ 08.10 เท่านั้น และผมก็ขี่แบบชิวๆ ชมบรรยากาศที่แสนสวยงามสองข้างทาง จนมาถึงเมืองเงินในราว 09.30 เท่านั้น
ร้านขายอาหาร และ สินค้าที่ละรึกสำหรับนัำท่องเที่ยวบริเวณท่าเรือปากแบง |
ส้ม และ ผลไม้สีสวยก็มาจากจีน |
ทางลงแพข้ามฟาก |
การลงแพข้าฟากที่ปากแบงครั้งนี้ถือว่าเป็นการข้าแพที่ปากแบงครั้งสุดท้ายของผม ก่อนที่สะพานจะสร้างเสร็จ |
จะรีบร้อนไปทำไม ในเมื่อความสวยงามนั้นอยู่ตรงข้างหน้านี่เอง |
การขี่รถลัดเลาะไปตามไหล่เขาที่มีหมอกปกคลุม บรรยากาศมันเหงาๆ บอกไม่ถูกจริงๆ |
Suzuki Van Van RV-125 ม้าคู่ใจที่เชื่อถือได้ ขับขี่สบายโดยเฉพาะวิ่งทางไกล ไม่เมื่อย และปลอดภัย เพราะไปเร็วไม่ได้ |
ถนนที่ออกจากเมืองเงินมุ่งหน้าสู่ด่านชายแดน เพียงแค่ข้าเขาอีกลูกหรือ สองลูกก็เมืองไทยบ้านเราแล้ว |
ข้าวมันไก่หน้าด่านห้วยโก๋น |
ใครจะข้ามแดนก็ติดต่อชิปปิ้งเจ้านี้ได้นะครับ โทรตามเบอร์โทรในรูปนี้ โทรติดต่อมาก่อนสัก 2-3 วันนะครับ |
ด้วยความดีใจที่มาถึงบ้านเราแล้ว ทำให้ผมลืมอะไรบางอย่างไปสนิทเลยก็คือ ไฟเตอนน้ำมันขึ้น น้ำมันใกล้จะหมด !!! อะไรก็ไม่ว่า..ดันมาเตอนตอนที่อยู่บนเขา แล้วจะไปเติมที่ใหนเพราะปั๊มที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ใน อ.เชียงกลาง ทำให้ผมต้องขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยความเครียดที่สุด เพราะหากน้ำมันหมดจริงๆ ผมคิดถึงสภาพตัวเองที่ต้องเข็นรถขึ้นดอยนี่มันคงเป็นที่น่าทุเรสตัวเองสุดๆ เลย เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงต้องพยายามขี่ด้วยความเร็วไม่สูงมาก และพยายามให้รอบเครื่องยนต์ต่ำที่สุด และในที่สุดผมก็มาถึงปั๊มน้ำมันบางจากใน อ.เชียงกลาง จ. น่าน และที่นี่มีร้านกาแฟร้านหนึ่งอยู่หน้าปั๊ม ซึ่งเป็นจุดที่ผมเติมคาเฟอีนด้วย
กาแฟในปั๊มบางจาก ที่ อ.เชียงกลาง จ.น่าน |
ผมออกจาก อ. เชียงกลางในราวเที่ยงเศษๆ และจากจุดนี้ผมวิ่งเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1097 ซึ่งเป็นทางลัดระหว่าง อ.เชียงกลาง ไปยัง อ.สองแคว ซึ๋งเส้นทางนี้จะเป็นถนนขนาดเล็กๆ ที่วิ่งไปตามสันเขา เป็นถนนที่มีทิวทัศน์สวยมาก ผมแนะนำเลยครับ หากใครยังไม่เคยมาวิ่งบนถนนเส้นนี้
ทิวทัศน์บนถนน 1097 |
ถนน 1097 นั้นจะเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับ ทางหลวงหมายเลข 1148 ที่ อ.สองแคว ซึงวิ่งอีกไม่ไกลก็จะถึง บ.สะเกิน ที่เป็นหมู่บ้านสุดท้ายของ จ.น่าน ก่อนเข้าสู่ จ.พะเยาที่ บ.ห้วยเฟือง ซึ่งทั้ง 2 หมู่บ้านนี้มีความพิเศษตรงที่ว่า เป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกัน และคนของทั้ง 2 หมู่บ้านนี้ก็รู้จักกันเป็นอย่างดี เพียงแค่มีเส้นแบ่งจังหวัดเท่านั้น อะไรๆ หลายอย่างก็แตกต่างกัน ตั้งแต่บัตรประชาชน โรงเรียน และ สวัสดิการต่างๆ ที่รัฐฯ มอบให้
พอลงดอยมาก็จะพบกับ บ.สะเกิน จ.น่าน |
ป้ายบอกเขตจังว้ดชัดเจน |
แค่ขับรถมาอีกนิดเียวก็จะเป็น บ.ห้วยเือง |
แค่ไม่กี่สิบเมตรก็ข้ามจังหวัดแล้ว |
ถึงบ้านแล้ว 18.00น. พอดี |
หลังจากที่จบทริปนี้แล้ว ผมก็ไม่มีโอกาสได้เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์เข้าไปใน สปป.ลาวอีกเลยเพราะสาเหตุที่ ทางการลาวเขาออกกฎใหม่ ที่ไม่อนุญาติให้รถมอเตอร์ไซค์ไทยขนาดเล็ก ต่ำกว่า 250cc เข้าประเทศเขา เป็นอันว่าทริปการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ในประเทศลาว สำหรับผมเองเป็นอันยุติ ยกเว้นว่าจะเป็นการเดินทางด้วยจักรยาย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น