Suzuki Van Van RV125 - ไปไต่ยอดฟ้าที่พงสาลี - 1

ทริปนี้เป็นทริปที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤกษจิกายน 2558 แล้วครับ แต่ตัวผมเองก็ไม่ค่อยจะมีเวลามากนักในการเขียน Blog เนื่องจากภาระกิจหลายๆ อย่าง ช่วงนี้พอจะมีเวลาอยู่บ้างก็เลยคิดว่าค่อยๆ เขียนเรื่องราวที่ผ่านมาดีกว่าก่อนที่ความทรงจำดีๆ จะเลือนหายไปจากสมอง

ทริปนี้เป็นทริปการเดินทางส่วนตัวคนเดียว ซึ่งการเดินทางใน สปป.ลาว หากเราไม่ประมาท และเร่งรีบเกินไปก็ไม่มีอะไรน่ากลัวเพราะมันอยู่ที่ การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางเพียงลำพัง  ผมมีแรงบัลดาลใจจากการที่อยากไปสัมผัสกับความหนาวของเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของลาวครับ "พงสาลี" เป็นแขวงที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศลาวซึ่งหากดูตามแผนที่ให้ดีแล้ว มันเป็นเหมือนติ่งของแผ่นดินที่ยื่นเข้าไปในประเทศจีน และเวียดนาม

เส้นทางที่ผมเดินทาง


ในอดีตนั้นเมืองพงสาลีถือว่าเป็นเมืองหนึ่งของจีนแต่โดนฝรั่งเศษเข้ามายึดครองในสมัยล่าอานานิคมเพื่อเป้นจุดยุทธศาสตร์เอาใว้ควบคุมทั้งจีนและเวียดนามอีกที ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ว่าทำไมเมืองนี้ถึงได้รับอิทธิพลของจีนค่อนข้างมากซึ่งเราสามารถสังเกตุได้ง่ายๆเลยจากสิ่งปลูกสร้างที่มีอยูู่ทั่วเมืองพงสาลี

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ผมใช้พาหนะคู่ใจคือ Suzuki Van Van 125cc  รถไม่แรงแต่ก็พาผมไปใหนต่อใหนได้สบายใจ และการเดินทางครั้งนี้ผมเริ่มออกเดินทางจากบ้านผมเองในอำเภอเมืองเชียงราย ผ่านอำเภอเวียงชัย ไปออกชายแดนที่ อ.เชียงของ ผมจำได้ว่าผมออกจากบ้านราวๆ หกโมงเช้า ขี่มาเรื่อยๆ สบายๆ ร้อยกว่ากิโลนิดๆ มาถึง อ.เชียงของก็ประมาณเวลา 10:00 น. พอดี แล้วก็จัดการเติมน้ำมันกันทางเข้าสู่หน้าด่านชายแดน  การผ่านด่านชายแดนครั้งนี้ผมใช้บริการของ shipping หน้าด่าน เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งทาง จนท. เขาก็ให้ความสะดวก และเป็นกันเองดีครับ ผมใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงครับในการเคลียร์เอกสารการเดินทางทั้งฝั่งไทย และ ฝั่งลาว และที่ลืมไม่ได้ก็คือ การซื้อประกันภัย รถจักรยานยนต์ตรงหน้าด่านลาวก่อนเข้าสู่ตัวเมืองของลาว

วันแรกของการเดินทางในลาว (19/11/2015)
เมื่อผมออกจากด่านห้วยทรายในราว 11น. ผมก็มมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงน้ำทาทันทีครับ แต่เป็นการเดินทางแบบค่อยเป็นค่อยไป เสพสุขกับภาพของสองข้างทางไปเรื่อย ไม่เร่งรีบ เพราะผมต้องเตือนตัวเองเสมอว่านี่คือการมาเที่ยว และต้องไม่ประมาทจนกลายเป็นทริปที่หมดสนุก ผมมาถึงโรงแรมดอกจำปาในราวๆ สี่โมงเย็นครับ
บ่อแก้ว
ก่อนออกจากแขวงบ่อแก้วขอชักภาพสักหน่อย จากจุดนี้ไปถึงหลวงน้ำทาก็อีก 171Kms ซึ่งเส้นทางนั้นอุดมไปด้วยภูเขาสวยงามมากครับ

ความสวยงามมักแฝงใว้ซึ่งอันตรายเสมอหากเราประมาท ซึ่งภาพแบบนี้มีให้เห็นตลอดการเดินทางใน สปป.ลาว

ร้านค้าข้างทางมีให้เห็นบ่อยๆ ซึ่งเป็นร้านที่ผมมักแวะพักดื่มน้ำ และคุยกันกับชาวบ้านเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตของคนพื้นที่ และพบว่าสินค้าที่นำมาขายนั้นนำมาจากบ่อแก้วบ้าง อุดมไชย และ เวียงจันทร์บ้าง
โรงแรมดอกจำปา
Mini Review โรงแรมดอกจำปา ฉบับขำๆ

หลวงน้ำทา
เมื่อมองจากห้องพักของโรงแรมดอกจำปาจะเห็นภูเขาเป็นฉาก สดชื่นมากๆ ครับ

หลวงน้ำทา
หน้าโรงแรมดอกจำปายามหัวค่ำ ซึ่งจะมีตลาดโต้รุ่งขายอาหารอยู่ข้างๆ โรงแรม

หลวงน้ำทา
Luang Namtha Night Market เป็นตลาดอยู่ข้างๆ โรงแรมดอกจำปา นอกจากนี้ยังมีคิวรถที่จะนำไปสู่ เดียนเบียนฟู ของเวียดนามอีกด้วย

หลวงน้ำทา
เป็ด และ ไก่ย่าง อาหารสุดยอดของที่นี่

หลวงน้ำทา
ร้านขายส้มตำ ผมเห็นมีอยู่หลายร้าน แต่ผมเลือกร้านนี้ เพราะมีป้ายราคาชัดเจนดี

หลวงน้ำทา
ผมอยากจะบอกว่า ที่นี่เขากินเป็ดย่างคู่กับ ข้าวเหนียวส้มตำ และเป็ดย่างคือเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ ซึ่งก็อร่อยมากสมกับคำล่ำลือจริงๆ หนังงี้กรอบๆ มันๆ อร่อยมาก

หลวงน้ำทา
ส้มตำที่นี่ก็แซ่บหลายจริงๆ นี่คือส้มตำปลาร้า+น้ำปู ซึ่งให้สีดำๆนั่นแหละ พอดีผมเป็นลูกเจ๊กที่กินปลาร้าได้ ไม่ได้ดัดจริตกะชีวิต หรือรังเกียจอะไร เพราะมันอร่อยโคตรๆ เลย...ขอบอก ส่วนน้ำปูนั้นก็เป็นอาหารตามปกติของชาวเหนืออยู่แล้ว ผมจึงกินได้แบบไม่เขินเลยสักนิด
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ พร้อมกับเบียร์ลาวอีกหนึ่งกระป๋องก็ได้เวลาพักผ่อนของผม เพราะเหนื่อเพลียจากการขับรถมาทั้งวัน และยังจะต้องขับต่อไปอีกไกลผมเลยนอนตั้งแต่สามทุ่มกว่าๆ หลับไม่รู้เรื่องเลยครับ

ไปต่อวันที่ 2 - http://lonerover.blogspot.com/2016/05/suzuki-van-van-rv125-2.html

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมื่อ Dahon Boardwalk D7 เปลี่ยนชุดขับ เป็น Dahon Boardwalk D20

ไมล์วัดความเร็ว INBIKE 321

Cannello Mini Velo - รถราคาถูกๆ นอกสายตา