การท่องเที่ยวในแนว Slow Tourism


ตามปกติผมมักจะติดตามเว็ปที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นพันทิพ หรือ เทรคกิ้งไทย และเว็ป นสพ. ต่างๆ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และเมื่อเร็วๆนี้ผมได้พบกับคำศัพท์ใหม่คือ Slow Tourism ซึ่งมันเป็นการท่องเที่ยวอีกแนวหนึ่งที่มีแนวโน้มว่าน่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในอนาคต สาเหตุที่การท่องเที่ยวแบบนี้สะดุดตาของผมขึ้นมาก็เพราะมันเหมาะกับนิสัยของผมมากกว่า การท่องเที่ยวในลักษณะ Commercial Tourism หรือชะโงกทัวร์ ที่เป็นการท่องเที่ยวในลักษณะเร่งรีบ และต้องตื่นแต่เช้าเพื่อวิ่งตามธงของไกด์ทัวร์ เพื่อให้ทันโปรแกรมการท่องเที่ยวที่ทัวร์เขาจัดให้ แต่ในรายละเอียดแล้วแทบจะไม่ได้อะไรเลย



นอกจากนี้ยังมีทัวร์อีกประเภทหนึ่งที่เจอบ่อยมากคือ Mass Tourism เป็นประเภทที่ว่าตรงใหนที่เขาว่าดีก็จะมีคนแห่กันไปที่นั่นจนสถานทีท่องเที่ยวไม่เพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยว มิหนำซ้ำเมื่อคนไปมากปัญหาที่ตามมาก็คือเรืองขยะ และธรรมชาติที่ถูกทำลาย หรือทัศนยภาพที่ถูกบิดเบือนจนไม่เหลือเสน่ห์ในแบบดั้งเดิมอีกเลย ยกตัวอย่างเช่น อ.ปาย

แล้ว Slow Tourism คืออะไร?  ขื่อมันก็บอกขัดๆ อยู่แล้วว่าเป็นการท่องเที่ยวแบบช้าๆ ชิลล์ๆ ใส่ใจในรายละเอียดมากกว่าการท่องเที่ยวในแบบทั่วๆไป ดังนั้นการท่องเที่ยวแบบนี้จึงต้องการเวลามากกว่าการท่องเที่ยวในแบบปกติ เพื่อที่จะได้มีเวลาอย่างเต็มที่ในการสัมผัสกับ ธรรมชาติ ศิลป วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนในแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ อันที่จริงความหมายของ slow tourism มันมีความหมายลึกกว่าการท่องเที่ยวแบบขิลล์ ตามที่เราเข้าใจกันทั่วไป แต่มันรวมไปถึงการเดินทางที่ข้าลงแต่ปลอดภัยมากขึ้น  การกินอาหารที่ได้รับการปรุงที่ละเมียดละมัยมากขึ้น  การอยู่กับธรรมชาติ และการอยู่ในสังคมชนบท ที่ไม่มีความเร่งรีบ  และมีค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวที่เป็นธรรม

สำหรับการท่องเที่ยวของผม ก็จะมีสไตล์ของผมเอง แม้ว่าจะไม่ใช่ Slow Tourism ก็ใกล้เคียงเพราะผมไม่ชอบตีกรอบให้ชีวิตของผมเองมากเกินไปแม้ในยามพักผ่อนท่องเที่ยวผมก็อยากจะไปแบบผ่อนคลายมากกว่าที่จะต้องอยู่ในกรอบของเวลาจนกระทั่งกลายเป็นความเครียด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมื่อ Dahon Boardwalk D7 เปลี่ยนชุดขับ เป็น Dahon Boardwalk D20

ไมล์วัดความเร็ว INBIKE 321

Cannello Mini Velo - รถราคาถูกๆ นอกสายตา