Suzuki Van Van 125 - ทริป เชียงราย - เวียงแหง ครั้งเดียวไม่เคยพอ

เราเริ่มทริปนี้จากการที่มีเพื่อนในกลุ่มท่านึง (โกเหม่น) เพิ่งจะซื้อรถใหม่คือ Suzuki GD 110 ก็เลยหาวิธีรันอินเครื่องให้รวดเร็วที่สุด และแล้วผมก็เลยให้มีการออกทริประยะสั้นๆ คือ เชียงราย - แม่อาย - ฝาง - เชียงดาว - เวียงแหง - อรุโณทัย - ดอยอ่างขาง - ฝาง - แม่อาย - เชียงราย รวมระยะทาง 507 กม. โดยประมาณ

รายละเอียดของทริป

อำเภอเวียงแหงมีชื่อเดิมว่า "เมืองแหง" มีความสำคัญในฐานะเมืองหน้าด่านตามเส้นทางเดินทัพและการค้าระหว่างเมืองเชียงใหม่ ราชธานีของอาณาจักรล้านนา กับเมืองนาย (ปัจจุบันอยู่ในรัฐฉาน ประเทศพม่า) ประชากรส่วนใหญ่ของ อำเภอเวียงแหง จะเป็นชาวไทยใหญ่ จีนฮ่อ และ ชาวไทยภูเขา เสียมากกว่า ในตัวอำเภอจริงแล้วดูเหมือนจะไม่ค่อยจะคึกคักเท่าที่ควร แต่จะต้องไปที่ตำบล เปียงหลวง ซึ่งอยู่ติดกับชายแดน ไทย-พม่า จึงจะค่อยดูมีชีวิตชีวาหน่อย เพราะมีที่พัก และ ร้านอาหารมากกว่า แม้ในยามที่ทางการ ไทย-พม่า จะปิดการค้าขายตามแนวชายแดนก็ดี 

การเดินทางออกจากชียงราย จนถึง อ. เวียงแหงก็ไม่ได้ยากลำบากแต่ประการใด เพียงแต่เส้นทางที่ไปนั้นต้องวิ่งอยู่บนภูเขาที่สูงชัน แต่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ที่รอการค้นหา ซึ่งอันที่จริง อ.เวียงแหงนั้น ไม่ได้ห่างจาก อ.ปาย ของแม่ฮ่องสอนเท่าไรนัก แต่ อ.เวียงแหงยังมีความบริสุทธิ์ของวิถีชาวบ้านอีกมาก และจากเวียงแหงจะมีทางป่าลัดเลาะไปจนถึง อ. ปายได้ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะเดินทางในฤดูฝนได้หรือไม่ 

ร้านกาแฟแรก ก่อนถึง อ.แม่อายที่เรามาแวะพักรถ และดื่มกาแฟกัน

บรรยากาศหน้าร้าน

ฟัก และ น้ำเต้า สองตุ้ม ที่ทางร้านปลูกประดับเอาใว้สวยงามมากครับ

ไร่องุ่น หลังร้านกาแฟ  ตอนที่พวกผมไป องุ่นก็กำลังติดผลพอดีเลยครับ

โกเหม่น รุ่นพี่ใจดี เจ้าของรถ Suzuki GD110

ทะเลหมอกก่อนเข้าสู่ตัวอำเภอเวียแหง

ความสุขที่ได้มาครับ เหมือนกับอยุ่ในอีกโลกหนึ่งจริงๆ หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองมาสัมผัสกับธรรมชาติ และใช้เวลาอยู่อยุ่กับตัวเอง ได้สมาธิดีมากครับ

ที่พักใน ต.เปียงหลวง  สงบ และ สบายครับ

ร้านสุกี้ยูนาน ใน ต.เปียงหลวง

ตลาด ต.เปียงหลวง หากด่านการค้าชายแดนเปิด คงจะคึกคักน่าดูครับ

มื่อมาถึงเปียงหลวงแล้วไม่มาที่ วัดฟ้าเวียงอินทร์ ก็ถือว่ามาไม่ถึงเวียงแหงครับ เพราะวัดฟ้าเวียงอินทร์ตั้งอยู่บนเนินเขาสองลูก เนินเขาลูกหนึ่งที่ตั้งของเจดีย์ทอง ซึ่งอยู่ในฝั่งไทย ส่วนเนินเขาอีกลูกหนึ่งนั้นที่ตั้งของอุโบสถหลังเก่า อยู่ในเขตเมืองปั่น รัฐฉานของพม่า วัดฟ้าเวียงอินทร์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินอันเป็นที่วัด มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ อาณาเขตทิศเหนือจรดชายแดน ไทย – พม่า ทิศใต้จรดหมู่บ้านเปียงหลวงใหม่อพยพทิศตะวันตกจรดป่าเขา ด้วยเหตุที่พระธาตุเจดีย์ตั้งอยู่ระหว่างชายแดน ไทย – พม่า ได้ชื่อเป็นภาษาไตว่า “กองมูแหลนหลิน” คำว่า “กองมู” หมายถึงเจดีย์ คำว่า “แหลนหลิน” หมายถึง เขตแดนหรือชายแดน ภายในบริเวณวัดทางฝั่งไทยประกอบไปด้วยหอสวดมนต์ เจดีย์ทอง หอระฆัง กุฏิสงฆ์ ศาลา วิหารหลังใหม่ (ซึ่งสร้างเมื่อ พ.ศ. 2535) ศาลาจำศีล ศูนย์อบรมเด็กก่อเกณฑ์ของวัดทางฝั่งพม่ามีสิ่งก่อสร้างคืออุโบสถหลังเก่าโรงนอนพระและด้านหลังของโรงนอนมีที่พักของทหารพม่า

มาระชีนะเจดีย์ แห่งวัดฟ้าเวียงอินทร์ วัดสองแผ่นดิน อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่

ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ภายในวัดฟ้าเวียงอินทร์ วัดสองแผ่นดิน อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่

ประเทศพม่า ก็เพียงแค่เดินข้าเนิน ประมาณ 200 เมตร ครับ ในภาพก็คือเขตพม่าแล้วครับ

พระเจ้าหมายเมือง พระเจ้าหลวงประจำวัด

เนื่องจากการเดินทางในครั้งนี้มีผู้ร่วมดินทางมาก และ เราต้องไปด้วยกันเป็นทีม ดังนั้นผมจึงไม่ค่อยได้มีโอกาสเก็บรูปภาพมามากเท่าไร แต่การเดินทางครั้งนี้ทำให้ผมทราบว่า เมืองไทยของเรามีอะไรดีๆ ให้ค้นหาอีกมากครับ และ คิดว่าต้องกลับไปเยี่ยมเวียงแหงอีกครั้ง เมืองหลังเขาที่ยังบริสุทธิ์