Suzuki Van Van 125 & Sony RX-100...ไม่ลองไม่รู้ อยากรู้ก็ต้องไปลอง


นี่ไม่ใช่การรีวิวรถ Suzuki Van Van 125 หรือ การรีวิวกล้องถ่ายรูป Sony RX-100 นะครับ แต่นี่คือการจดบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับการเดินทางของผมเท่านั้น ผมกำลังจะพูดถึง อำเภอลองซึ่งเป็น อำเภอเล็กๆ อำเภอหนึ่งของจังหวัดแพร่ และอาจจะไม่ได้อยู่ในสายตาของใครมากนัก แต่สำหรับผมเองแล้ว ผมชอบออกท่องเที่ยวไปยังอำเภอเล็กๆ เหล่านี้ที่ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้วมันมีอะไร ต่อมีอะไรที่น่าสนใจซ่อนอยู่เยอะมาก ซึ่งอยู่ที่ว่าเราเองมีเวลาค้นหามากพอหรือเปล่าเท่านั้น



เบื้องหลังของทริปนี้
สำหรับทริป อ.ลอง และ อ.วังชิ้นนั้น ผมคิดมานานแล้วเนื่องจากผมได้มีโอกาสเข้าไปติดต่อธุรกิจในสองอำเภอนี้ และผมได้มีโอกาสซื้อรถมอเตอร์ไซค์ Suzuki Van Van ใหม่ที่จังหวัดลำปาง  ทั้งๆที่ผมมีบ้านอยู่ที่เชียงราย เหตุผลง่ายๆก็คือ ซื้อที่ ลำปางผมได้ราคาถูกกว่า 4000 บาทครับ  ผมคิดว่าผมเอาเงิน 4000 บาทนี้มาเป็นค่าน้ำมันในการขี่กลับเชียงรายยังถูกกว่า ซื้อรถที่เชียงรายเสียอีก และได้เที่ยวด้วย

ครั้งแรกที่ผมไปติดต่อธุรกิจที่ อ.ลอง และ อ.วังชิ้น ผมรู้สึกว่าทั้งสองอำเภอนี้เป็นอำเภอเล็กๆ หลังเขา มีความสงบ และมีเสน่ห์ ในตัวเองอย่างมาก เนื่องจากทั้งสองอำเภอนี้ไม่ได้อยู่บนถนนสายหลัก แต่จะต้องขับรถแยกเข้าไปในตัวอำเภออีกประมาณ 16 กิโลเมตร จึงทำให้มีผู้คนจำนวนมากขับรถผ่านมา แล้วก็ผ่านเลยไป หากใครไม่มีธุระปะปังกันจริงๆจังๆ ก็คงไม่มีใครเขาอยากจะมาเที่ยวเท่าไรนัก


รู้จักเมืองลองสักเล็กน้อย
อำเภอลองเดิมเป็น อำเภอหนึ่งของจังหวัด ลำปาง ต่อมาปีพ.ศ.247 4 ได้โอนมาขึ้นกับจัง หวัดแพร่ เดิมเรียกว่ าเมืองลอง เป็นเมืองท ี่ตั้งมานานนับพันปี ตามตำนานกล่าวว่าสร้า งมาก่อนพุทธกาล เหตุเ รียกเมืองลองเพราะว่า พระนางจามเทวีได้หลงทางมาถึงบริเวณที่ตั้ง เมืองจึงตรัสว่า "ลอง ขึ้นไปก่อนเถอะ" เหตุ ดังกล่าวจึงเรียกว่าเมืองลอง 

ภูมิประเทศอำเภออำเภอลอง ประกอบด้วยพื้นที่ทั้งหมด 15726 ตร.กม. ประชาขนในอำเภอประกอบอาชีพอำเภอลอง ทำนา ทำสวน ทำไร่ เลี้ยงสัตว์

สถานที่ท่องเที่ยวใน อ.ลองนั้นมีอยู่หลายที่ด้วยกัน หากจะไปให้หมดในทุกๆที่ โดบละเอียดคงต้องใช้เวลาอยู่ใน อ.ลองประมาณ 3-4 วัน เพื่อเจาะลึกลงไปในแต่ละสถานทีเลยครับ สถานที่ๆ น่าสนใจช่น สวนหินมหาราช ถ้ำจันผา แก่งหลวงและ ถ้ำเอราวัณ ภูเขาหินปะการัง 

ของแถมคือ อำเภอวังชิ้น ซึ่งอยู่ติดๆ กัน และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายที่เช่นกัน  เดิมอำเภอวังชิ้น เป็นตำบลวังชิ้นขึ้นอ ยู่กับอำเภอลองจังหวัด ลำปาง ปี พ.ศ.2473 ทางราชการได้โอนมาขึ ้นอยู่กับอำเภอลองจัง หวัดแพร่ เพราะสภาพภูมิศาสตร์ใกล้เคียงปี พ.ศ2481 ทางราชยกฐานะ เป็นกิ่งอำเภอวังชิ้น ขึ้นอยู่กับอำเภอลอง จังหวัดแพร่ ปี พ.ศ .2501 โดยยกฐานะจากกิ่งอำเภอวังชิ้น เป็น อำเภอวังชิ้น ภูมิประเทศอำเภออำเภอวังชิ้น ประกอบด้วยพื้นที่ทั้งหมด 12825 ตร.กม. ประชาขนในอำเภอประกอบอาชีพอำเภอวังชิ้น ทำนา ทำสวน ทำไร่


การเดินทาง
แผนที่การเดินทางของผม ระยะทาง 449 กิโลเมตร

การเดินทางของผมเริ่มต้นจาก อ.เมือง จ.ลำปาง เพราะผมซื้อรถ และเก็บรถเอาใว้รอทะเบียนที่ จ.ลำปาง เมื่อได้ทะเบียนก็ถึงเวลาออกทริปโดยเดินทางมาตามถนนหลวงหมายเลข 11 ก่อนแยกเข้าสู่ถนนหลวงหมายลข 1023 เพื่อเข้าสู่ อ.วังชิ้นต่อไป

จอดสงบนิ่งก่อนออกเดินทาง
แวะเติมน้ำมัน และเดิมคาเฟอีน ระหว่างทาง
ทัศนียภาพหลังร้านกาแฟ
จุดขายโปรตีน ระหว่างทาง ก่อนถึง ปางมะโอ

โปรตีนไข่ (มดแดง) ครับ
จะไปต่อที่เถิน หรือ ตาก ก็ได้นะครับ
ริมฝั่งน้ำยม หน้าตลาด อ.วังชิ้น เป็นภาพที่สวยงามติดตาผมมากครับ ผมยังคิดนะว่าหากได้บรรยากาศตอนเช้า และมีร้านกาแฟเล็กๆ ประเภท chic & chill มาเปิดริฝั่งน้ำยม ก็โรแมนติกน่าดู
หน้าตลาด อ.วังชิ้น  อำเภอเล็กๆ ที่มากด้วยน้ำใจของผู้คน สำหรับคนที่ชอบความสงบ หลีกหนีจากสังคมเมืองใหญ่ แต่แห้งเล้งน้ำใจ และมีแต่การชิงดี ชิงเด่นกัน
ฝักดอกแคป่า ที่มีรสขม ผมไปเจอในตลาด อ.งวังชชิ้นครับ
บ่อน้ำพุร้อนแม่จอก ซึ่งดูแลโดย อบต.แม่จอก และทาง อบต. เขาจะทำทีพักรับรองนักท่องเที่ยวด้วย คืนละ 500 บาทเท่านั้นครับ คืนนี้ผมนอนที่นี่เลย
ที่ทำการของบ่อน้ำร้อน
ร้อนแบบธรรมชาติดิบๆ

เรือนพักเล้กๆ ครับ แต่ก็อยู่ได้อย่างสบายๆ อยู่ติดกับหลังเขา หากมีเวลาอยากจะนอนคิดอะไรเพลินๆ สักสองสามวัน

ศาลาพักหน้าห้องพัก จะได้กลิ่นจากบ่อน้ำร้อนตลอดเวลา ทีนี่เขามี่ห้องอาบน้ำแร่ให้ด้วยนะครับ สำหรับผู่ที่เข้ามาพักที่นี่ก็อาบได้ฟรีครับ
สถานที่แช่เท้าในน้ำอุ่น และหากต้องการอาบน้ำแร่ ทางอบต. เขาก็จัดห้องน้ำเตรียมใว้ให้เรียบร้อย ในราคาเพียง 100 บาทเท่านั้น หากเป็นแขกที่มาพักที่นี่ อาบได้ฟรีครับ
บ่อลวกไข่ เจอทุกที่ๆ เป็นบ่อน้ำร้อน เพื่อพิศูจน์ว่า น้ำร้อนจริงๆ นะ
สภาพห้องพัก ก็สสะอาดดีครับ
ไปเที่ยวกันต่อดีกว่าครับ

วนอุทยานแห่งชาติ เวียงโกศัย มักจะมีผู้คนเข้ามาพักผ่อนเป็นประจำในช่วงวันหยุด

ขุนคีรี มิอาจกั้น Suzuki Van Van 125
มาเที่ยวจังหวัดแพร่ ต้องแวะเวียงโกศัย
น้ำตกแม่เกิ๋งหลวงที่อยู่ในอุทยาแห่งชาติเวียงโกศัย
ธรรมชาติที่ต้องช่วยกันรักษา
ตัวน้ำตกในั้นที่หนึ่ง จากจำนวนทั้งหมดเจ็ดชั้น ชั้นที่สวยที่สุดจะอยู่ชั้นบนสุดซึ่งผมเองขึ้นไปไม่ถึง
โต๊ะของท่านประธานครับ
อุทยานฯ จะเปิดให้เข้ามาเที่ยวชมเฉพาะช่วงหน้าแล้งเท่านั้น และจะไม่อนุญาตให้เข้าเมื่อหน้าผนมาถึง เนื่องจากมีความอันตรายจากน้ำป่า
ร้านค้าขายของเล็กๆน้อยๆ จำพวกเครื่องดื่ม และ อาหาร ที่พอจะบรรเทาความกระหายได้บ้างยามหน้าแล้งแบบนี้ แต่ปีหนึ่งๆ คนขายเขาจะมีช่วงเวลาทำเงินเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น
ก่อนอำลาอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย อ.วังชิ้นเพื่อเข้าสู่ อ.ลอง
ทางหลวงหมายเลข 1023 ก่อนเข้าสู่ อ.ลอง

ร้านค้าข้างถนน ก่อนจะเข้าสู่ตัวอำเภอ จะมีชาวบ้านนำสินค้าพื้นเมืองมากมามายมาขายกันริมถนน

ถนนสายเศรษฐกิจของ อ.ลองผ่านหน้าตลาด

พิภิทธภัณฑ์เมืองลอง หน้าตลาดพอดีครับ

เมื่อความทันสมันรุกเข้ามา
วิถีชาวลองในแบบดั้งเดิม ที่เรียบง่าย
ความพยายามในการอนุรักษ์ ของดีๆ เอาใว้ ผมว่าไม่จำเป็นต้องไปเที่ยงตลาด 200-300 ปีในภาคกลางก็ได้ หากชอบความเก่า classic ผมว่ามีให้เห็นในทุกภาคแหละครับ อยู่ที่เราจะเห็นคุณค่าของมันหรือเปล่าเท่านั้น

วิถีอดีต
ร้านค้าแบบนี้คงมีให้เห็นในต่างจังหวัดเท่านั้น
วิถีที่ต้องหรับเปลี่ยน
วิถีเก่า กับ วิถีใหม่ บนถนนเส้นเดียวกัน แห่ง อ.ลอง

ชาใข่มุก อุ๊ยใจ ในวัดข้างตลาด
ร้านค้าในตลาด อ.ลอง มีสินค้าพื้นเมืองให้เลือกซื้อมากมายครับ

หากใครชอบก๋วยเตี๋ยวเนื้อ หน้าตลาดจะมีร้านของป้ากะลุงแก่ๆ คู่หนึ่งขายอยู๋ ราคาถูกมาก และอร่อยด้วย ผมว่าคุณภาพและราคาขนาดนี้หากได้เข้าไปอยู่ใน กทม. รวยเละแน่ๆ 

นี่ครับเจ้าของร้าน  ซึ่งร้านของแกจะอยู่ด้านหน้าตลาด ใต้ต้นโพธิ์ หาง่ายครับ

มาเที่ยวหาความสงบทางใจกันต่อที่วัดสะแล่งกันต่อดีกว่าครับ วัดดสะแล่ง ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เป็นวัดเก่าแก่สมัยเดียวกับพระธาตุศรีดอนคำ เป็นพระธาตุดีย์ที่บรรจุพระธาตุพระอุระพระพุทธเจ้า พระอุโบสถเป็นทรงล้านนาประยุกต์ ประวัติความเป็นมาของวัดมีว่า วัดนี้สร้างในสมัยพระนางจามเทวี เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีโบราณวัตถุเป็นพระพุทธรูปสมัยต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยอาณาจักรทวารวดี จนถึงอยุธยาตอนปลาย
มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาที่ดอยสะแล่งแก้วดอนมูล หรือดอยสะแล่งหลวง เจ้าเมืองและชาวบ้าน ต่างพากันไปถวายบิณฑบาตแก่พระพุทธเจ้า และพระสงฆ์สาวก เมื่อพระพุทธเจ้าเสวยพระกระยาหารแล้ว ชายาเจ้าเมืองได้ถวายดอกสะแล่งเป็นพุทธบูชา พระพุทธเจ้าทรงรับและอนุโมทนา แล้วทรงมีพุทธฎีกาพยากรณ์ว่า ในอนาคตกาล สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุของพระองค์ และสถานที่แห่งนี้จะมีความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป จากการที่ชายาเจ้าเมืองถวายดอกสะแล่งเป็นพุทธบูชา และดอยแห่งนี้มีต้นสะแล่งอยู่ วัดนี้จึงมีชื่อว่า วัดสะแล่ง

ด้านหน้าวัด
ความงดงามภายในตัววัด

สงบ และสะอาดสมกับเป็นพุทธสถาน ที่แตกต่างจากพุทธพาณิชยสสถานใน กทม. อย่างสิ้นเชิง


โบราณสถาน
ครูบาสมจิต ผู้พัฒนาวัดสะแล่ง


พิภิทธภัณฑ์ในรูปแบบล้านนา

พระแม่ธรณีบีบมวยผม

อุโบสถล้านนาโบราณ

ภายในอุโบสถถ์

พระพุทธรูป ที่สามารถสัการระได้ตลอดเวลา

องค์พระใหญ่ บนยอดดอยที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล

ก่อนออกจาก วัดสะแล่งครับ

ออกจากวัดแล้วผมจะพามาสัมผัสกับธรรมชาติ แห่งสายน้ำยมสักเล็กน้อย สายน้ำยมคือหนึ่งในสายน้ำ สาขาของเม่น้ำเจ้าพระยาที่หล่เลี้ยงคนส่วนใหญ่ของประเทศ และมีความสำคัญต่อภาคกลางเป้นอย่างมาก แต่วันนี้ลมหายใจแห่งสายน้ำยมนั้นรวยรินมากครับ แต่ก็ยังเหลือ ความสวยงามเอาใว้ให้เห็น

วิถีชีวิตของชาวบ้านใน อ.ลอง ทีมีสายน้ำยมคอยหล่อเลี้ยง

สายน้ำยมที่หล่อเลี้ยงผู้คนในหลายจังหวัด แต่มีแหล่งกำเนิดจากภูเขาสูงในจังหวัดเชียงราย พะเยา และแพร่

ลมหายใจแห่งสายน้ำยม

หลังจากที่ได้ความสงบในใจแล้วก็คงจะได้เวลาจากวัดสะแล่ง และอำเภอลองแล้วครับ แต่ก่อนที่จะออกจากเมืองลอง เราต้องแวะกินกาแฟแห่ระเบิดกันเสียหน่อย เพราะร้านนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียงของอำเภอเลยทีเดียว  หาากใครมาอำเภอลอง แล้วไม่ได้แวะิมกาแฟร้านนี้แล้วก็นาเสียดายครับ เพราะร้านกาแฟร้านนี้จะมีเรื่องเล่าถึงตำนานของ คำล้อเลียนชาวแพร่ ซึ่งมักจะรู้กันในกลุ่มชาวเหนือเท่านั้นว่า "ชาวแพร่แห่ระเบิด"  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคำนี้มันมี ที่มาที่ไปครับ


รูปภาพที่แสดงให้เห็นถึงอดีตว่าทำไม แพร่ต้องแห่ระเบิด

ประวัติโดยละเอียดของที่มาของคำว่า "แพร่ แห่ระเบิด"

ร้านกาแฟแห่ระเบิด แต่มาที่นี่ไม่ต้องกลัวระเบิดครับ

กาแฟตางเพ้ = กาแฟทางนี้

บรรยากาศการตกแต่งภายในร้าน

หลังจากที่ออกจาก อ.ลองแล้ว ผมก็ขี่ยาวมาเข้า อ.เมืองแพร่  เข้าสู่ อ. ร้องกวาง  อ.สอง  และ อ. งาว แต่ผมใช้เส้นทางที่ผ่านแก่งเสือเต้น (ทางหลวงชนบท 1154) ไม่ได้ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 103 ผมต้องบอกว่าป่าสองขข้างทาง 1154 นั้นสวยมาก และหากทางรัฐบาลจะสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นจริงๆ ผมคงจะเสียดายป่าผืนนี้มาก

สภาพลำน้ำยมใยช่วงที่ผ่านแก่งเสือเต้น


บนถนนเส้นนี้ไม่ค่อยจะมีรถวิ่งสักเท่าไร และ จะมีด่านของทหารอยู่ 2 ด่านที่คอยตรวจการณ์อยู่

สภาพของทางหลวงชนบท หมายเลข 1154 ซึ่งถนนขรุขระเป็นบางช่วง แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินทางด้วย Suzuki Van Van 125 ของผม

ผมโผล่มาอีกทีก็กลางตลาด อ.งาว แล้วครับ เลยแววะพักร้อนเสียหน่อยหลังจากที่เดินทางมาค่อนข้างไกล

หลังจากดื่มน้ำ พักร้อนกันเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันต่อได้เลยอีกประมาณ 144 กิโลเมตรกว่าจะถึงเชียงราย ก็ราวๆ เกือบสามทุ่ม เพราะผมขับรถได้ไม่เร็วมากนักเนื่องจากตอนเย็นการมองเห็นในที่มืดของผมเริ่มมีปัญหาก็เลยคิดว่ามาช้าๆ และปลดดดภัยดีกว่า

สรุป - ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปสำหรับการ run-in รถ ผมเลยไม่ได้ใช้รถแบบดุดันมากนัก อีกทั้งไม่ได้ซีเรียสในการจดบันทึกเรื่องค่าใช้จ่ายมากนักเพราะไม่ชอบทำอะไรที่ทำให้รูสึกเป็นทางการมากเกินไป เพราะผมตั้งใจขี่รถเพื่อการพักผ่อนมากกว่า จากการขี่ Suzuki Van Van กว่า 440 กิโลเมตร ผมต้องบอกว่า ผมพอใจกับรถคันนี้มากครับ เพราะมันสามารถตอบโจทย์ในการใ้งานของผมได้เป็นอย่างดี และ ไม่ทรมาก้นจนเกินไป สุดท้ายผมจบทริปนี้ที 444 กิโลเมตร  เมื่อเทียบกับระยะทางบน Google Map ที่ 449 กิโลเมตรแล้ว ผมถือว่าระยะทางคำนวนออกมาได้ใกล้เคียงทีเดียว

เลขไมล์ตอยจบทริป ขี่ไป 444 กิโลเมตร


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมื่อ Dahon Boardwalk D7 เปลี่ยนชุดขับ เป็น Dahon Boardwalk D20

ไมล์วัดความเร็ว INBIKE 321

Cannello Mini Velo - รถราคาถูกๆ นอกสายตา