Suzuki Van Van 125 (RV125)

ตอนผมขี่รถ Suzuki Van Van 125 ใหม่ๆ ได้มีโอกาสไปคุยเรื่องธุรกิจกับเพื่อนๆ หลายคน และทุกคนบอกว่า เอ้อนี่..รถสวยนะ แต่มักปิดท้ายด้วยคำถามที่ว่่า ทำไมเอ็งถึงเลือกรุ่นนี้วะ แพงก็แพง หรือไม่ก็จะถามว่าไอ้รถคันนี้มันดีอย่างไร? บางคนก็คิดว่าราคาขนาดนี้ ทำไมไม่ซื้อบิ๊กไบค์ ไปเลยทีเดียวจบ ซึ่งเรื่องนี้ผมเคยบอกไปแล้วว่าทำไมผมถึงไม่ซื้อรถใหญ่

Suzuki Van Van 125
เอาละผมจะบอกให้ว่าทำไมผมเลือก Suzuki Van Van 125 มาเป็นรถคู่ใจ แต่ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่บทความประเภท Review รถนะครับ แต่จะบอกความเห็นจากมุมมอง และความต้องการของผมเอง เพราะการที่ผมจะซื้อสินค้าอะไรสักอย่างหนึ่ง ผมจะมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนครับ โดยเฉพาะสินค้าที่มาราคาแพงอย่างเจ้า RV125 นี่สามารถซื้อรถขนาด 125cc ในท้องตลาดได้สองคันเลยทีเดียว หรือจะเลือกเพิ่มเงินอีกนนิดหน่อยก็จะได้รถนาด 250cc ไปใช้เลย

สืบเนื่องจากผมใช้รถเล็กอย่าง Kawasaki KSR 110 สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ทำให้ผมได้เห็นข้อด้อยอย่างหนึ่งของ Kawasaki KSR สำหรับการเดินทางไกลๆ คือ เบาะที่เพรียวเล็กเมื่อขี่ไปสักพักหนึ่งจะเกิดอาการเจ็บก้น และหากต้องขี่ไกลๆ ทั้งวัน มันเป็นการท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยจะสนุกเอาเลย ดังนั้นจึงเกิดอาการอยากได้พาหนะคันใหม่ พร้อมทั้งโจทย์ที่ต้องหาคำตอบดังนี้


  1. รถไม่จำเป็นต้องแรง แต่ต้องตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดีที่ประมาณ 80-90 Kms/Hr 
  2. เบาะต้องนั่งสบาย ไม่ทรมานสำหรับการเดินทางไกลๆ
  3. ควรจะเป็นรถที่สามารถใช้ได้เอนกประสงค์

จากโจทย์ข้างต้น ผมเชื่อว่ามีรถในตลาดหลยรุ่นสามารถตอบโจทย์เบื้องต้นนี้ได้ในราคาที่ถูกกว่า Suzuki Van Van ด้วยซ้ำไม่ว่าจะเป็น Honda PCX 150 หรือ Yamaha Tricity แม้กระทั่งรถที่แพงกว่านิดหน่อยอย่างเช่น Kawasaki KLX 250 หรือ Honda CRF 250 แต่ที่ผมเลือก Suzuki Van Van 125 ก็เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้

  1. ในเรื่องความเร็ว ผมเป็นคนที่ขับรถแบบเรื่อยๆ ชิลล์ๆ ครับ และความเร็วในการเดินทางผมมักจะอยู่ที่ประมาณ 70-80Kms/Hr แต่ Suzuki Van Van 125 สามารถตอบสนองได้ดีถึง 90 Kms/Hr ซึ่งอย่างน้อยผมก็ยังเหลือความเร็วสำรองเอาใว้สำหรับเร่งแซง (หมายเหตุ : แม้ว่า Suzuki Van Van 125 จะสามารถทำ Top Speed ถึง 110 Kms/Hr แต่ผมมองว่านั่นไม่ใช่ความเร็วใช้งานที่แท้จริงเพราะกว่าจะได้ความเร็วระดับนั้นเราต้องบิดแช่มาแต่ไกล) สำหรับผมแล้วความเร็วไม่ใช่สาระสำคัญเท่าไรนักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว แต่รายละเอียดระหว่างการเดินทางสิครับสำคัญกว่า วิ่งรถเร็วๆนั้น นอกจากจะอันตรายแล้ว โอกาสที่จะเก็บรายละเอียดบนเส้นทางก็ลดลงไปด้วย
    กันแคร้งที่ผมติดเพิ่มเข้ามา เพื่อป้องกันเครื่องยนต์ในยามที่เดินทางไปในเส้นทางที่ทุรกันดาร แต่สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาคือการเพิ่มความแข็งแรงให้กับเฟรมที่จะทำให้เฟรมไม่บบิดตัวในยามที่ใช้รอยเครื่องสูงๆ
  2. เบาะนั่งที่แสนสบาย เพราะเบาะนั่งของ Suzuki Van Van 125 นั้นใหญ่ นุ่ม นั่งสบายจริงๆครับ ผิดกับตัวเลือกที่ผมเคยคิดใว้ อาทิเช่น  Kawasaki KLX 250 หรือ Honda CRF 250  ซึ่งผมก็คงจะมีสภาพไม่แตกต่างจากการขับขี่  Kawasaki KSR 110 เท่าไรนัก เพราะเบาะของพวกรถ Enduro มักจะทำให้เล็กเพรียว ซึ่งขี่ไปนานๆแล้วจะเกิดอาการเจ็บก้นเห็นอย่างมาก
    เบาะใหญ่นั่งสบาย
  3. ความเป็นเอนกประสงค์ ซึ่งผมสามารถใช้งานเจ้า   Suzuki Van Van 125 ในเมืองได้อย่างสะดวกสบาย แม้ในบางจุดอาจจะไม่สะดวกเท่ากับรถ Scooter เมื่อขับขี่ในเมือง แต่ด้วยความที่รถสามารถใช้งานได้แบบกว้างขวางกว่า จึงทำให้  Suzuki Van Van 125 สามารถไปได้ในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะทางเรียบ หรือ ในเส้นทางที่ทุรกันดารแค่ใหนก็ไปได้ แต่ก็คงจะไม่กับถึงขนาดที่เป็นแบบ off-road เหมือนพวก enduro
    ไม่เกี่ยงแม้เส้นทางที่ยากลำบาก
  4. ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ นี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ผมชอบมาก เพราะผมไม่ชอบระบบที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ แม้ว่าจะมีความรู้สึกว่าการระบายความร้อยด้วยน้ำจะทำได้ดีกว่าแต่ก็ต้องแลกมาด้วยการดูแลรักษาที่มากกว่า และมีชิ้นส่วนที่ต้องดูแลมากกว่า ยิ่งมีชิ้นส่วนมากเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ หากรถมีปัญหาเนื่องจากความเสียหายของชิ้นส่วนแล้วคงปวดหัวน่าดู
    ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศที่เรียบง่าย
  5. ความสวยงาม และ ความประณีต ของการผลิต อันนี้ผมต้องยอมรับว่ารถที่ประกอบจากโรงงานในญี่ปุ่นนั้นใช้วัสดุ และผลงานการผลิตได้ดีกว่าจริงๆ เครืองยนต์ก็สวยงามมาก ส่วนรูปแบบของตัวรถก็ออกแนว Retro ล้อโต มองนานๆ ก็ไม่เบื่อเหมือนพวกรถ แนว Sport Naked ที่มีอยู่เยอะแยะในปัจจุบัน
    ไม่ว่าจะมองมุมใหนก็ไม่เบื่อ
Suzuki Van Van ไม่ใช่รถที่แรง แต่เป็นรถที่หล่อ ขี่ไปทางใหนมีแต่คนมอง ให้ความรู้สึกที่เทห์กว่าได้ขี่รถ Big Bike ราคาแพงๆ เสียอีก ส่วนความรู้สึกของการขับขี่ที่แท้จริงนั้น Suzuki Van Van เป็นรถที่ไม่สูงจนเกินกว่าขาจะเขย่งพื้นทำให้การขี่ในเมืองทำได้สะดวก การออกตัวที่ให้ความนุ่มนวล (แต่บางคนบอกว่าอืด) ซึ่งต่างจากพวกรถเล็กๆ หรือ รถสปอร์ตทั้งหลาย แต่เมื่อวิ่งได้ความเร็วถึงจุดหนึ่งแล้ว ก็สามารถทำความเร็วได้ บิดติดมือทันใจไม่แพ้รถแรงๆ เช่นกัน  ผมได้ลองนำรถออกทริประยะ 400 กิโลเมตรดู พบว่าเบาะนั่งให้ความสบายไม่ปวดก้นแต่อย่างใด  ประกอบกับล้อที่โตทำให้ผ่านหลุมขนาดเล็กๆไปได้อย่างนุ่มนวลกว่ารถที่ใช้ล้อขนาดเล็กๆ แฮนนด์รถกว้างทำให้การควบคุมทำได้เง่าย ส่วนตัวรถนั้นมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ทำให้รถมีความเสถียรมากเมื่อใช้ความเร็วที่สูง จะไม่มีความรู้สึกที่วอกแวกหรือสั่นสะท้านมือเลยครับ ส่วนเรื่องความประหยัดนั้นผมยังไม่ได้วัดอะไรอย่างจริงจังในช่วงที่ทำการ run-in แต่เท่าที่วัดคร่าวๆโดยประมาณจะอยู่ที่ 36-39 กม./ลิตร บนเส้นทางที่เป็นดอยทางภาคเหนือครับ
ขนาดล้อที่สามารถผ่านหลุมไปได้อย่างสบายๆ

สรุป - Suzuki Van Van 125 เป็นรถใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ ทั้งการขุับขี่ในเมือง นอกเมือง ทางไกล หรือ แม้แต่เส้นทางทุรกันดาร มันไม่ใช่รถที่ให้อารมย์การขี่แบบเร้าใจ ปรู๊ดปร้าด แต่มันจะให้อารมย์ที่นิ่มนวล ไปได้ทุกเส้นทาง ดังนั้นใครที่คิดจะซื้อรถรุ่นนี้ควรต้องทราบสไตล์การขับขี่ของตัวเองก่อน หรือ ต้องปรับบุคลิกการขับขี่ของตัวเองให้เข้ากับลักษณะของรถ แต่เมื่อรู้มือกันแล้วผมว่าไม่ผิดหวังครับ เพราะ Suzuki คือสินค้าที่มีคุณภาพสูงยี่ห้อหนึ่งทีเดียว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมื่อ Dahon Boardwalk D7 เปลี่ยนชุดขับ เป็น Dahon Boardwalk D20

ไมล์วัดความเร็ว INBIKE 321

Cannello Mini Velo - รถราคาถูกๆ นอกสายตา